Laravel - framework for PHP web development
นี่คือ 5 อันดับแรกสิ่งที่ได้เรียนรู้
1. ) การติดตั้ง Laravel(Installing Laravel) - composer และ PHP framework
ใน Laravel ความต้องการซอฟต์แวร์อื่น ๆ ( composer) เพื่อที่จะได้รับการติดตั้ง :) สำหรับ composerมาจากโครงการ dev เดียวและการเข้ารหัสปาเก็ตตี้ที่มีความสุขของตนเป็นที่น่าแปลกใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะเห็นโครงการ PHP ที่จำเป็นที่จะ "ติดตั้ง" composerที่เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการในการพึ่งพาของ PHP จะช่วยให้คุณที่จะประกาศโครงการห้องสมุดขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณและจะติดตั้งไว้ในโครงการของคุณสำหรับคุณ อ้างอิงlibrariesภายนอกที่โครงการต้องทำงาน และมีขนาดใหญ่พอที่จะมีอื่น ๆ อีกหลายที่มีอยู่ในlibraries PHP รวมเข้ากับมัน ตัวอย่างของการพึ่งพาในโครงการของ PHP คือพูดคนเดียว - ". ส่งบันทึกของคุณไปยังแฟ้มซ็อกเก็ตกล่องจดหมายของฐานข้อมูลและการบริการเว็บต่างๆ" libraries PHP ที่ คุณรวมไว้ในโครงการของคุณและ BAM คุณสามารถเก็บบันทึกเช่นนักพัฒนามืออาชีพ!
ดังนั้น Laravel มีหลายอย่างเช่นการอ้างอิงและพวกเขาได้รับการประกาศดังกล่าวว่าcomposerที่สามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดายก่อนที่คุณจะสามารถใช้ Laravel หลังจากที่คุณพิมพ์งบบรรทัดคำสั่งcomposerที่มีการอ้างอิงจากสิ่งเหล่านี้จะถูกดาวน์โหลดไปแล้วโครงการของคุณในโฟลเดอร์ที่เรียกว่า "vendor"
เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการดำเนินการติดตั้ง Laravel สามารถพบได้ในคู่มือการติดตั้ง Laravel
ฉันจะบอกว่า "การติดตั้ง" กระบวนการคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับการรับโฟลเดอร์vendorที่เป็นโครงการของคุณ นอกจากนี้ทราบว่าแต่ละโครงการ Laravel คุณเริ่มต้นความต้องการที่จะ "ติดตั้ง" เป็นโฟลเดอร์vendorอยู่ในโครงการของคุณและไม่ได้เป็นระดับโลก
2. ) เขียน Laravel และ URL ใหม่ (Laravel and URL rewriting)
เขียน URL ช่วยให้แอพลิเคชันเว็บของคุณที่จะจัดการกับ URL ของโครงสร้างดีว่าทั้งสองดูดีและสามารถจดจำได้ง่าย ตัวอย่างเช่นพิจารณาการเชื่อมโยง
วิธี tidier และง่ายต่อการจดจำ
ส่วนใหญ่การใช้งานเว็บขั้นสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่สนับสนุน webservices สงบใช้หลายรูปแบบของ URL ที่เขียนใหม่
แต่สำหรับงานของคุณให้การสนับสนุน URL เขียนใหม่ก็ต้องใช้สิทธิ์บางอย่างบนเว็บเซิร์ฟเวอร์ของคุณ สำหรับเว็บเซิร์ฟเวอร์ Apache ตั้งค่าบางอย่างใน httpd.conf และไฟล์ htaccess ความจำเป็นที่จะต้องทำ สำหรับเว็บเซิร์ฟเวอร์ IIS คุณต้องรวมไฟล์ web.config (โดยไม่ต้องมีการขยาย .xml) ในเว็บไฟล์โครงการของคุณ
3. ) มีความจำเป็นในการสร้าง Laravel และเรียกใช้งานบนโฮสต์ที่ใช้ร่วมกันหรือไม่? (Do I need composer to run laravel on a shared host ?)
ตอนนี้ที่เราได้เห็นของกระบวนการที่น่าเบื่อที่จะติดตั้งบนเครื่อง Laravel ซึ่งลูกค้าของเราอาจมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้งานบนโฮสต์ที่ใช้ร่วมกันที่มีการ จำกัด การเข้าถึงมากไปยังเซิร์ฟเวอร์ Afterall หลายโฮสต์ที่ใช้ร่วมกันจะไม่ปล่อยให้คุณติดตั้งการใช้งานดังนั้นวิธีที่วิเศษสำหรับนักพัฒนาที่จะเกิดขึ้น โชคดีที่คุณไม่จำเป็นต้องติดตั้งcomposerบนโฮสต์ที่ใช้ร่วมกัน เมื่อคุณได้เรียกcomposerภายในโครงการ Laravel ของคุณและดาวน์โหลดโฟลเดอร์vendor คุณก็สามารถ FTP โครงการทั้งหมดลงในเว็บเซิร์ฟเวอร์ของคุณและการทำงาน ตั้งแต่การอ้างอิงไม่เปลี่ยนแปลง (ยกเว้นในรุ่นใหม่ของ Laravel) คุณจะต้องเรียกcomposerครั้งเดียว
4) การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บน Laravel Windows Azure (Developing a Laravel Application )
หลังจากที่ได้รับการประยุกต์ใช้ Laravel ของการทำงานขั้นตอนต่อไปได้รับการปรับใช้บน Windows Azure ผมใช้ Github สำหรับ Windows บนเครื่องท้องถิ่นเพื่อให้โฟลเดอร์โครงการนั้นๆเป็นพื้นที่เก็บข้อมูล ต่อไปผมจะเชื่อมต่อหน้าต่างแดชบอร์ดสีฟ้าที่เก็บ Github สำหรับการใช้งานโดยอัตโนมัติ ซึ่งหมายความว่าเมื่อใดก็ตามที่ฉันจะเปลี่ยนแปลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ท้องถิ่นโปรเจคนั้นๆเพียงต้องการที่จะกระทำให้พื้นที่เก็บข้อมูล Github และจะได้รับไปยังเซิร์ฟเวอร์! แต่ผมก็ยังไม่สามารถที่จะเห็นการติดตั้งเริ่มต้นที่หน้าแรกของ Laravel และ API ไม่ได้ทำงาน จากนั้นผมสังเกตเห็นมี gitignore ที่โฟลเดอร์vendorและ Github จึงไม่ซิงค์โฟลเดอร์vendorไปยังเซิร์ฟเวอร์เป้าหมาย การแก้ปัญหาคือการ FTP โฟลเดอร์vendorไปยังเซิร์ฟเวอร์และในที่สุดก็สามารถทำงานได้สำเร็จ! ไม่ต้องพยายามที่จะเอาคำสั่ง gitignore บนโฟลเดอร์จากvendor แต่ Github สำหรับแอพพลิเคหน้าต่างก็คงต้องล้มเหลวดังนั้นเส้นทาง FTP ที่ดีเพื่อให้ห่างไกล! แต่ URL ที่ของฉันไม่ได้กลับเนื้อหาใด ๆ (API / v1 / getcontent) การตั้งค่าไฟล์ web.config เพื่อให้การเขียน URL แก้ปัญหาที่
5. ) สิ่งอื่น ๆ (A few other things)
ผมสังเกตเห็นการเชื่อมต่อของ Windows Azure FTP นั้นเร็วมาก - และที่รู้สึกเมื่อเทียบกับประสบการณ์ของการใช้เซิร์ฟเวอร์โฮสติ้งที่ใช้ร่วมกันปกติ นั้นยังพบว่าในระหว่างการทดสอบตัวอย่างข้อมูล MySQL ให้กับ Azure ผ่าน cleardb ล้มเหลวครั้งเดียว (ข้อมูล MySQL ได้หายไป) หมายถึงนักพัฒนาควรใช้เวลานี้ในการพิจารณาเมื่อดำเนินการสืบค้นฐานข้อมูล การออกแบบแอพลิเคชันของคุณสำหรับการลองและในส่วนย่อยที่ต้องการลบเมื่อไม่มีข้อมูลจะถูกส่งกลับ
ที่มา http://denvycom.com
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment