F-22 RAPTOR เครื่องรบบินนินจา
ก่อนอื่นเลยผมขออนุญาตแนะนำท่านผู้อ่านที่ยังไม่รู้จักเครื่องบินตัวนี้เลย ก่อนนะครับ เครื่องบินรบ F-22 RAPTOR ที่ท่านเห็นอยู่ในรูปข้างบนสุดนี้คือเครื่องบินที่มีราคาแพงที่สุดอันดับที่ สองของโลก (US $350,000,000 ต่อลำ) แต่ถ้าเราพูดถึง เรื่องการปฏิบัติงานโดยรวมแล้ว F-22 RAPTOR นั้นถือได้ว่าเป็นอันดับ หนึ่งในบรรดาเครื่องบินรบทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบัน F-22 RAPTOR ถูกสร้างขึ้นมาทั้งหมดเพียง 145 ลำและมีใช้ภายในกองทัพอากาศของประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงหน่วยงานเดียว
F-22 executes transonic / from: www.webaviation.blogspot.com
ข้างล่างนี้คือข้อมูลทั่วไป และข้อมูลทางเทคนิคของเครื่องบิน F-22 RAPTOR ครับ
จุด
เด่นของเครื่องบินรบ F-22 RAPTOR
คือเป็นเครื่องบินที่มีความสามารถสูงในการหลบหลีกการตรวจจับ
ของสัญญานเรดาร์อีกทั้งขีดความสามารถในการรบก็สูงไม่แพ้เครื่องบินรบรุ่น
อื่นๆเลย ซึ่งในปี ค.ศ. 2007
ทางกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาได้ทำการทดสอบบินเครื่อง F-22 RAPTOR
เพื่อทดสอบความสามารถในการ รบ และในครั้งนั้นทางกองทัพได้ให้คะแนนไว้ถึง
97% (ผ่าน 102 ใน 105 การทดสอบ)F-22 RAPTOR / from: http://www.popsci.com
ฝูงบิน F-22 RAPTOR / from: http://hashmonean.com
F-22 RAPTOR หลบหนีการตรวจจับจากสัญญานเรดาร์ได้อย่างไร?
นวัต
กรรมที่เครื่องบินรบ F-22 RAPTOR
ใช้ในการหลบหลีกการตรวจจับความเคลื่อนไหวเรียกว่า Stealth technology หรือ
LO technology (low observable technology)
เป็นการผสมผสานหลายเทคโนโลยีเข้า ด้วยกันเช่น การออกแบบลำเครื่อง
การใช้วัสดุที่ดูดซึมเรดาร์ได้ (radar absorbent material หรือ RAM) รวม
ไปถึงการเอาใจใส่องค์ประกอบเล็กๆน้อยๆอย่างเช่นการออกแบบหมวกนิรภัยของนัก
บินขึ้นมาใหม่เพราะโดยปกติแล้วหมวกนิรภัยของนักบินแบบธรรมดาจะสามารถสะท้อน
สัญญานเรดาร์ได้อย่าง ไรก็ตามนอกจากเทคโนโลยีเรดาร์แล้วก็ยังมีอีกหลายวิธีที่สามารถใช้ในการตรวจ จับการเคลื่อนไหว ของอากาศยาน และการหลบหลีกสัญญานเรดาร์ก็เป็นแค่เพียงหนึ่งในหลายๆขององค์ประกอบของ Stealth technology ดังนั้นเครื่องบินรบ F-22 RAPTOR จึงถูกออกแบบมาให้ลดการปล่อยรังสีอินฟราเรดด้วยเพื่อทำ ให้ยากต่อการตรวจพบของอุปกรณ์ตรวจจับความร้อน (infrared homing) ที่มีอยู่ในจรวดนำวิถี (missile) อีก ทั้งการออกแบบก็ต้องทำให้เครื่องบินนั้นบินด้วยเสียงที่เบาและมองเห็นได้ยาก ด้วยตาเปล่าด้วย ปัจจุบัน นี้นอกจาก F-22 RAPTOR แล้วก็ยังมีเครื่องบินรบอีกหลายรุ่นมากที่ถูกสร้างมาเพื่อให้ตรวจจับการ เคลื่อนไหวได้ยาก ซึ่งก็จะมีประสิทธิภาพแตกต่างกันไปตามราคาและความสามารถของผู้ผลิต แต่ก็ยังไม่มีลำ ไดที่มีประสิทธิภาพเต็ม 100% รวมทั้ง F-22 RAPTOR เอง
ห้องนักบินของ F-22 RAPTOR / from: http://3.bp.blogspot.com
ห้องนักบิน
ห้อง
นักบินของเครื่องบินรบ F-22 RAPTOR นั้นเป็นชนิดนักบินเดี่ยว
(จุนักบินได้เพียงท่านเดียว) ฝาครอบ ห้องนักบินเป็นกระจกกันน้ำฝนได้
ส่วนอุปกรณ์ภายในห้องนั้นถูกออกแบบขึ้นมาใหม่โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบ
ของห้องบินแบบดั้งเดิม และมีจุดเด่นที่สำคัญๆเช่น
ระบบติดเครื่องที่ง่ายและรวดเร็ว เครื่องเตือนภัยอัตโนมัติ
และระบบช่วยเหลือนักบินชั้นสูง อุปกรณ์
ทุกชิ้นภายในห้องเครื่องถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการมองผ่านแว่นที่ใช้มอง
ในที่มืด (night vision goggles)
เพราะบางครั้งเพื่อการพรางตัวของเครื่องบินจึงทำให้นักบินไม่สามารถใช้แสง
สว่างภายใน ห้องเครื่องได้มากนักห้องเก็บอาวุธของ F-22 RAPTOR / from: http://i.pbase.com
อาวุธประจำเครื่อง
F-22
RAPTOR
มีห้องเก็บอาวุธอยู่สามห้องภายในตัวเครื่องซึ่งสามารถบันจุอาวุธต่างๆได้หก
ชิ้นดังนี้ จรวดนำ วิถีระยะไกลสี่ลูกในห้องกลาง
และจรวดนำวิถีระยะสั้นในห้องเก็บด้านซ้ายและขวาข้างนะลูก ห้องเก็บกลางที่
บันจุจรวดนำวิถีระยะไกลสี่ลูกสามารถเปลี่ยนไปเก็บลูกระเบิดขนาดกลางได้สอง
ลูก หรือลูกระเบิดขนาดเล็ก แปดลูก
การเก็บอาวุธจำเป็นต้องเก็บใว้ภายในตัวเครื่องบินและมีฝาปิดที่มิดชิดเพื่อ
รักษาสภาพล่องหลไม่ให้ ถูกตรวดพบจากอุปกรณ์ตรวจจับต่างๆ
และยังช่วยลดแรงเสียดทานกับอากาศขณะบินได้ ทำให้เครื่องบินแล่น
ได้ด้วยความเร็วสูง
และประหยัดเชื้อเพลิงซึ่งจะช่วยให้เครื่องบินบินได้นานขึ้น
การ
เปิดฝาห้องเก็บอาวุธขณะบินมีผลทำให้เครื่องบินถูกตรวจจับได้ด้วยสัญญา
นเรดาร์ ดังนั้นการทิ้งระเบิด
หรือปล่อยจรวดนำวิธีจึงจำเป็นต้องทำด้วยความเร็ว เครื่องบินรบ F-22 RAPTOR
สามารถเปิดและปิดฝาครอบ
ได้ภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาทีเพื่อทำการยิงจรวดนำวิถี หรือทิ้งระเบิด
ตรวจสอบความพร้อมของ F-22 RAPTOR / from: http://taylor.typepad.com
การดูแลรักษา
มี
รายงานจากกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาออกมาว่าทุกๆครั้งหลังจากที่นำเครื่อง
F-22 RAPTOR ออกทำ การบินหนึ่งชั่วโมง ทางกองทัพต้องใช้เวลามากกว่า 30
ชั่วโมงในการซ่อมบำรุง และต้องเสียค่าใช้จ่ายมากถึง 44,000 ดอลลาร์
สาเหตุหลักที่ทำให้ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายจำนวนมากก็คือ
ผิวเคลือบลำเครื่องที่สามารถ ดูดซึมเรดาร์ได้
ซึ่งการซ่อมแซมในส่วนผิวเคลือบเพียงอย่างเดียวนี้เองต้องใช้เวลามากกว่า
ครึ่งของการซ่อมแซม ส่วนอื่นทั้งหมดและ ในวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 2009 เหล่าบรรดาสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐอเมริกาก็ได้ลงมติให้หยุดทำ การผลิตเครื่องบินรบ F-22 RAPTOR ใว้ที่ 187 ลำด้วยเหตุผลทางการเงินส่วนหนึ่ง บวกกับ F-22 RAPTOR ก็ไม่ได้ถูกใช้งานในภารกิจสงครามกับประเทศ อิรัก และ อัฟกานิสถาน แล้วดังนั้นจึงยังไม่มีความจำเป็นที่ จะต้องพัฒนาหรือเพิ่มการผลิตเครื่องบินรบ F-22 RAPTOR อีกต่อไป ซึ่งนักวิชาการก็คาดกันว่ากระทรวง กลาโหมของสหรัฐอเมริกาน่าจะหันไปลงทุนเพื่อพัฒนาบุคลากร และหน่วยงานราชการของทหารแทน
Flys aways F-22 RAPTOR / from: http://www.aviationexplorer.com
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment